2024-02-21 09:46:06
จำนวนครั้งที่อ่าน : 67
สิว ( Acne , Pimple) เป็นอาการทางผิวหนังที่เกิดจากการอุดตันหรือการติดเชื้อของต่อมไขมันในชั้นใต้ผิวหนังและเกิดเป็นตุ่มก้อนไขมัน สิวมีลักษณะเป็นตุ่มนูน เป็นก้อนไขมันอยู่ใต้ผิวหนัง มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ขึ้นอยู่กับสาเหตุการเกิดสิวนั้นๆ สิวบางชนิดก็อาจจะมีหัวสิวโผล่ขึ้นมาให้เห็นชัด แต่บางชนิดก็อาจจะเป็นสิวหัวปิด ไม่เห็นหัวสิว หัวสิวมีทั้งสีขาวและสีดำ อยู่ที่ไขมันนั้นได้ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศหรือไม่ สิวสามารถเกิดได้ทุกบริเวณของผิวหนังในร่างกาย แต่มักจะปรากฏมากในบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก เช่น ใบหน้า ลำคอ อก แผ่นหลังส่วนบน หัวไหล่ และมักจะพบมากในช่วงวัยรุ่น เพราะเป็นช่วงที่ฮอร์โมนในร่างกายยังไม่สมดุล มีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อย ๆ
หลังจากได้ทราบแล้วว่าสิวคืออะไร Bioderma ไปดูกันต่อว่าสิวเกิดจากอะไร เผื่อจะได้ขจัดปัญหาสิวไปได้ตั้งแต่ต้นเหตุ
สิวเกิดจากอะไรนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยปัจจัยการเกิดสิวมีหลากหลายและขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละบุคคล สาเหตุการเกิดสิวบางประการอาจไม่ได้ส่งผลให้เกิดสิวโดยตรง
โดยเราสามารถแบ่งสาเหตุของการเกิดสิวได้เป็นสองปัจจัย ดังนี้
กรรมพันธ์ุ
การเกิดสิวสามารถเกิดจากกรรมพันธุ์ได้ หากคนในครอบครัวมีสภาพผิวที่เป็นสิวง่าย อาจส่งต่อถึงลูกทำให้ลูกมีโอกาสเกิดสิวมากกว่าปกติ
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนส่งผลต่อสภาพผิวและระบบในร่างกาย เช่นการกระตุ้นต่อมไขมันให้มีการผลิตไขมันออกมามากขึ้น จึงเป็นสาเหตุของสิวช่วงประจำเดือนที่ฮอร์โมนมักไม่คงที่นั่นเอง
ความเครียด
ความเครียดสามารถส่งผลต่อฮอร์โมนและกระตุ้นให้ต่อมไขมันมีการผลิตไขมันออกมามากขึ้นได้ อาจทำให้เกิดสิวอุดตันได้ด้วย
พักผ่อนไม่เพียงพอ
การพักผ่อนไม่เพียงพอ นอกจากจะส่งผลให้เกิดความเครียดแล้วยังทำให้ร่างกายไม่สามารถพักผ่อนฟื้นฟูได้เต็มที่ ส่งผลให้เกิดสิวและทำให้สิวหายได้ช้า ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยสิวตามมา
สภาพอากาศ
สภาพอากาศส่งผลกับสภาพของผิวด้วย เช่น อากาศร้อนส่งผลให้ผิวมีความแห้งและขาดน้ำ เกิดการผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมาปกป้องผิวทำให้เกิดการอุดตันได้ง่าย หรืออากาศหนาวส่งผลให้ผิวมีความแห้ง ขาดน้ำ ผิวมีความตึงเพราะความหนาวและระคายง่ายกว่าปกติ
การเจริญเติบโตของแบคทีเรียก่อให้เกิดสิวอักเสบ
ผิวอาจได้รับแบคทีเรียจากภายนอกด้วย อย่างฝุ่นและมลพิษหรือการสัมผัสผิวหน้าอาจทำให้มีแบคทีเรียเข้าสู่รูขุมขนและเกิดการอักเสบใต้ชั้นผิวเป็นสิวอักเสบได้ เป็นสาเหตุว่าทำไมควรเลี่ยงการสัมผัสผิวหน้าหากยังไม่ได้ล้างมือให้สะอาด
เครื่องสำอางหรือสารเคมีตกค้างบนผิว
เครื่องสำอาง ครีมกันแดด หรือสารเคมีต่างๆที่ตกค้างบนผิวสามารถก่อให้เกิดการอุดตันได้ หากมีสิ่งตกค้างบนผิวและอุดตันเป็นจำนวนมากอาจส่งผลให้สิวมีขนาดใหญ่ หายช้า หรือมีอาการอักเสบในภายหลังได้จากการระคายเคืองผิว
การรับประทานอาหารที่มีไขมันมากจนเกินไป
การรับประทานอาหารที่มีไขมันมากจนเกินไป รวมถึงอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น แป้งและน้ำตาล เป็นอาหารสำหรับแบคทีเรียและกระตุ้นให้ผิวขับไขมันออกมาในรูปแบบของสิวได้
สิวมีหลายประเภทขึ้นกับลักษณะสิว และสาเหตุการสิวประเภทต่าง ๆ หากเรารู้ถึงลักษณะของสิวแต่ละประเภทเราก็จะสามารถรักษาสิว ลดสิวบนใบหน้าลงไปได้
โดยประเภทสิวขึ้นนั้นแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้
สิวอุดตัน (Comedones) เป็นผิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูนเกิดจากการอุดตันของรูขุมขน สิวอุดตันอาจเกิดจากไขมัน เซลล์เยื่อบุผิวหนังที่ตายแล้วบนผิวชั้นนอก และสิ่งสกปรกต่างๆที่อาจตกค้างและอุดตันอยู่ในผิว สิ่งเหล่านี้ทำให้ไขมันที่ผิวผลิตไม่สามารถออกมาได้ ทำให้ผิวเป็นตุ่มนูน ขาดความเรียบเนียน อาจเกิดในรูปแบบของสิวหัวขาว หรือสิวหัวดำได้
โดยหัวใจหลักในการแก้ปัญหาสิวอุดตันนั้นก็คือ การรักษาความสะอาดบนผิวให้สะอาดหมดจด ไม่ให้มีสิ่งสกปรกตกค้างบนใบหน้า เพื่อสิ่งตกค้างเหล่านี้จะได้ไม่หลุดลอกไปรวมกับน้ำมันส่วนเกินบนผิวแล้วลงไปอุดตันในรูขุมขน เรามาดูกันว่าสิวอุดตันแต่ละประเภทนั้นมีอะไรบ้าง และมีความแตกต่างกันอย่างไร
สิวหัวขาว (Whiteheads) เป็นสิวอุดตันประเภทหนึ่ง ที่เกิดจากการอุดตันของเชื้อแบคทีเรียที่เข้าไปอุดตันในรูขุมขน แบบปิดทำให้หัวสิวไม่ได้ทำปฏิกิริยากับออกซิเจน ทำให้หัวสิวเป็นสีขาว
สิวหัวดำ (Blackheads) เป็นสิวอุดตันประเภทหนึ่ง เรียกได้อีกชื่อว่า สิวหัวเปิด มีลักษณะเป็นตุ่มนูน มักเป็นเม็ดเล็ก มีรูเปิดเห็นหัวสิวและมีจุดสีดำบริเวณตรงกลาง จุดดังกล่าวคือไขมันในผิวที่สัมผัสกับอากาศแล้วกลายเป็นสีดำ
สิวผด มีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ แข็ง ๆ เหมือนผด มักเกิดจากเหงื่ออุดตัน สิวผด สิวหิน อาจทำให้ใบหน้าเห่อแดงเมื่อสัมผัสกับแสงแดดได้
สิวเสี้ยน เป็นสิวอุดตันประเภทหนึ่งที่มีความคล้ายคล้ายกับสิวหัวดำ แต่จะมีขนอ่อน ๆ ออกมาจากรูขุมขนด้วย เพราะขนเหล่านี้ไม่ยอมหลุดร่วงไปตามขนปกติ ทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนได้
สิวเป็นไต เป็นสิวอุดตันไม่มีหัวชนิดหนึ่ง ที่มีลักษณะเป็นหัวแข็ง ๆ เป็นไตใต้ผิวหนัง ไม่มีอาการอักเสบ หรืออาการคันร่วม
สิวอักเสบ คือ สิวที่เกิดการอักเสบในผิวหนังบริเวณนั้น โดยสิวอักเสบมีลักษณะเป็นก้อนแข็ง สีแดง อาจจะเป็นได้ทั้งสิวอักเสบมีหัว หรือสิวอักเสบไม่มีหัวสิวก็ได้
สิวอักเสบส่วนใหญ่มักจะเกิดจากสิวทั่วไปที่ทำสัมผัสบ่อย ๆ ด้วยการ แคะ แกะ เกา เพื่อพยายามบีบหัวสิวออกมา แต่หารู้ไม่ว่าการสัมผัสกับสิวบ่อย ๆ อาจทำให้ผิวบริเวณนั้นเกิดการระคายเคือง และถูกรบกวนจึงอักเสบขึ้นมาได้ ดังนั้นวิธีการแก้สิวอักเสบง่าย ๆ คือการพยายามไม่เอามือของเราที่ผ่านการสัมผัสเชื้อแบคทีเรียมากมายไปสัมผัสกับสิว
สิวหัวหนอง (Pustule) เป็นสิวอักเสบประเภทหนึ่ง มีลักษณะเป็นตุ่มแดงและมีอาการปวดบวมด้วย ซึ่งบนตุ่มจะมีลักษณะเป็นหัวหนองสีเหลือง มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียอื่นแทรกซ้อน
ระดับความรุนแรงของการเป็นสิว
การรักษาสิวและดูแลสิวขึ้นอยู่กับชนิดของสิว รวมถึงระดับความรุนแรงของสิวด้วย
สิวในระดับรุนแรงน้อย เป็นสิวที่ยังไม่มีการอักเสบหรือมีการอักเสบค่อนข้างน้อย เบื้องต้นสามารถรักษาได้เองด้วยการทำความสะอาดผิวหน้าให้เรียบร้อย เช่น การใช้โฟมล้างหน้าที่เหมาะกับผิว ควบคู่กับการใช้สกินแคร์สำหรับการดูแลผิวเป็นสิว รวมถึงการใช้ยาแต้มสิว
สิวในระดับรุนแรงปานกลาง เป็นสิวที่มีการอักเสบมาก เช่นสิวนูนแดงมีอาการปวด และเกิดสิวในบริเวณเดิมซ้ำๆ สามารถดูแลสิวรุนแรงปานกลางได้ด้วยการทายาแต้มสิวและใช้สกินแคร์สำหรับผิวเป็นสิว รวมถึงการรักษาความสะอาดด้วย
สิวในระดับรุนแรงมาก เป็นสิวที่มีอาการอักเสบมาก สังเกตได้จากความบวมแดงของสิว และมีหนองปนด้วย จะเห็นความรุนแรงของสิวได้จากการที่สิวมีการกระจายตัวเป็นวงกว้าง เช่น ทั่วบริเวณใบหน้า หากสิวมีอาการเห่อและรักษาเองได้ยากอาจปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อพิจารณาการรับประทานยาควบคู่ไปกับการใช้ยาแต้มสิว และการดูแลผิวหน้าด้วย
หากเป็นสิวรักษายังไง มีวิธีแก้สิวอย่างไร วันนี้ Bioderma จะมาแนะนำวิธีรักษาสิวด้วยวิธีต่าง ๆให้กับทุกคนได้ทราบกัน
การรักษาสิวด้วยยารักษาสิวสามารถทำได้เพื่อเป็นการรักษาเบื้องต้น ยารักษาสิวสามารถหาซื้อได้ทั่วไป ส่วนมากมักมีส่วนประกอบของกรดต่างๆ เช่น
เป็นกรดในกลุ่มเบต้า-ไฮดรอกซี (ฺBHA) ที่ช่วยขจัดผิวชั้นนอก และน้ำมันส่วนเกิน และสิ่งสกปรกออกไป เพื่อลดโอกาสการอุดตันของผิว ลดสิว ขจัดปัญหารูขุมขนกว้าง และบรรเทารอยสิว
เป็นกรดผลไม้ (AHA) สามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกไป ไม่อุดตันรูขุมขนและเผยผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน เป็นสารรักษาสิวที่หน้าที่ดีอีกตัวหนึ่ง
เป็นกรดอินทรีย์ที่พบในตระกูลข้าว มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียต้นตอของสิว ช่วยแก้ปัญหาสิวได้
เป็นกรดอีกชนิดที่มีสรรพคุณต้านเชื้อแบคทีเรีย และช่วยลดน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า แต่ผู้ที่มีผิวแห้ง และผิวขาดน้ำก็ควรต้องระวังในการใช้งาน เพราะอาจทำให้ผิวแห้งมากขึ้นได้
แต่ทั้งนี้ผู้ที่ผิวบอบบาง ต้องระวังในการใช้สารเหล่านี้ เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้
การกดสิวเป็นวิธีการรักษาสิวที่หน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังเนื่องจากการกดสิวที่ผิดวิธีอาจทำให้หัวสิวจมลงไปในผิวลึกกว่าเดิมและเกิดการอักเสบได้ ดังนั้นการกดสิวจึงควรอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่รู้วิธีการกดสิวเท่านั้น ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง จนเกิดการอักเสบขึ้นมาได้ หรือ อาจจะทำให้เกิดรอยช้ำ รอยแผลจากสิวขึ้นมาได้
แม้ว่าการเลเซอร์สิวจะเป็นที่นิยมด้วยความรวดเร็วในการรักษสิว แต่ด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าวิธีอื่นๆและผลกระทบต่อผิวซึ่งอาจทำให้ผิวมีความบอบบาง ไวต่อแสง เสี่ยงต่อการเกิดฝ้ากระหากโดนแดด การเลเซอร์สิวจึงเป็นวิธีที่ควรศึกษาและปรึกษาแพทย์ก่อนการเข้ารับการรักษาสิว
และวิธีในการลดสิวมีอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น วิธีรักษาสิวด้วยฮอร์โมน หรือใช้การรับประทานยาคุมกำเนิด จะช่วยเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ที่มีหน้าที่กระตุ้นการผลิตไขมันซีบัมจากต่อมไขมันออกมา ทำให้ง่ายที่จะมีน้ำมันส่วนเกินอุดตันรูขุมขน จนเกิดเป็นสิวฮอร์โมนได้
ล้างหน้าเหมาะสม
การดูแลผิวเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาสิวจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนทำได้ เพื่อดูแลทุกสภาพผิวและลดโอกาสการเกิดสิว เป็นการลดโอกาสการเกิดร่องรอยจากสิวในภายหลังได้ด้วย โดยสามารถดูแลผิวได้ด้ววิธี ดังนี้
รักษาความสะอาดของผิวหน้าโดยการล้างหน้าทุกเช้าหลังตื่นนอน และตอนเย็นหลังออกข้างนอกหรือตอนอาบน้ำ
ดูแลผิวหน้าด้วยความอ่อนโยน ใช้ทิชชู่หรือผ้าขนหนูที่มีความนุ่ม และเน้นวิธีการซับหน้าเบาๆมากกว่าการถูหน้า รวมถึงหลีกเลี่ยงการแกะหรือเกาผิว หรือการใช้สครับขัดผิวที่มีความหยาบเพราะอาจบาดผิวทำให้เป็นแผลหรืออักเสบเป็นสิวได้
ใช้ Cleansing/toner เหมาะสม
หากใช้เครื่องสำอาง ควรใช้คลีนซิ่งทำความสะอาดอย่างถี่ถ้วนเพื่อป้องกันไม่ให้มีสิ่งตกค้าง เกิดการอุดตันหรืออักเสบผิวมากกว่าเดิม หรืออาจจะใช้โทนเนอร์ร่วมด้วยหลังทำความสะอาดผิวหน้า เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกที่อาจจะลงเหลืออยู่
ใช้สกินแคร์ที่ไม่อุดตันรูขุมขน
ทาสกินแคร์ เซรั่ม ครีมบำรุงผิวและยาทาสิวอย่างสม่ำเสมอเพื่อเป็นการดูแลผิวแต่พื้นฐาน ช่วยลดสิวในระยะยาวได้
การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าสำหรับผิวเป็นสิวจะช่วยลดการเกิดสิวได้และมีค่า pH 5.5 ที่ใกล้เคียงกับผิว
ไม่ใช้เครื่องสำอางและสกินแคร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน เนื่องจากอาจไม่มีการรับประกันสุขอนามัยของผลิตภัณฑ์และอาจมีการใช้สารที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวเป็นสาเหตุของสิว
ทากันแดด สม่ำเสมอ
ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ สม่ำเสมอ เพื่อป้องกันผิวจากมลภาวะทางอากาศ แสงแดด แสงจากจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์ในชีวิตประจำวัน
ไม่ปล่อยให้ผิวสัมผัสกับแสงแดด หรืออยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด นอกจากจะเสี่ยงการเกิดผดผื่น สิวเห่อ ผิวไหม้แดด หน้าหมองคล้ำ ยังเสี่ยงทำให้ผิวผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมาอุดตันรูขุมขนอีกด้วย
ดื่มน้ำเพียงพอ
ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ เลี่ยงแนวโน้มผิวแห้งกร้าน
พักผ่อนให้เพียงพอ
พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเองได้อย่างเต็มที่ ช่วยรักษาสิวและลดแนวโน้มการเกิดสิวด้วย
ไม่ขัด / สครับผิว
ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิว เนื่องจากผลิตภัณฑ์ขัดผิวอย่างเม็ดสครับแม้จะมีความละเอียดแต่เมื่อเทียบกับรูขุมขนแล้วก็ยังมีขนาดใหญ่ อาจทำให้ผิวระคายเคืทนอง กระตุ้นให้เกิดสิว หรือสิวอักเสบได้ หากสิวหัวเปิดหรือเป็นแผล ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสิวโดยตรงเพราะอาจทำให้แบคทีเรียเข้าสู่ปากแผล เกิดหนองหรือการอักเสบได้
งดแกะ บีบ กดสิว
ไม่แกะ เกา บีบสิว เพราะอาจเป็นการทำร้ายผิวให้เกิดแผลหรือทิ้งร่องรอย
ตรีชฎา-คลินิก คลินิกรักษาสิว จังหวัดอุบลราชธานี รักษาสิว ทุกชนิด สิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวฮอร์โมน สิวสเตียรอยด์ แพ้ครีม แพ้เครื่องสำอาง ทรีทเม้นท์ ไอพีแอล เลเซอร์ คิดถึงเรา โทร 061-550-9396 LINE ID: @629inyrd
Share to Social Networks
บริการเว็บไซต์โดย 8columns.com